Jancis Robinson, “Rudolf Fürst is an acknowledged Pinot magician in Germany, not just with Spätburgunder (Pinot Noir), but also the earlier-ripening Frühburgunder.“
ที่ตั้ง: เมือง Bürgstadt ในเขต Franken
พื้นที่: 19.6 เฮกแตร์
พันธุ์องุ่น: 60% Pinot Noir & Frühburgunder / 15% Riesling / 12.5% Chardonnay & Pinot Blanc / 5% Silvaner
ปริมาณการผลิต: 120,000 ขวด/ปี
เรทติ้ง: Gault Millau 5/5 grapes, Falstaff 5/5 stars, Eichelmann 5/5 stars, Vinum 5/5 stars
Meet The Grower ตอนนี้ Swirl Cellar and Wine Bar มาแนะนำไวน์เยอรมันจากไวน์เนอรี่ระดับตำนาน ที่ได้รับเรทติ้งสูงสุดจากทุกค่ายทุกสำนัก รางวัล Winemaker of the Year, honorary prize for the life’s work และอื่น ๆ อีกมากมาย
ประวัติของ Rudolf Fürst (รูดอฟ เฟือส์ท)
Rudolf Fürst เป็นไวน์เนอรี่ในเขต Franken ที่มีประวัติทำไวน์มาตั้งแต่ปี 1638 โดยมี Rudolf Fürst เป็นรุ่นแรก ต่อมาในปี 1979 Paul ได้รับช่วงต่อจากพ่อ และเขาเป็นไวน์เมกเกอร์รุ่นแรกที่บุกเบิกการทำไวน์จาก ปิโนต์ นัวร์ ในเยอรมนี
ในปี 2018 ลูกชายของ Paul คือ Sebastian ผู้ซึ่งจบจาก Geisenheim มหาวิทยาลัยไวน์ชื่อดังได้เข้ารับช่วงต่อ สองพ่อลูกได้ทำไวน์จาก ปิโนต์ นัวร์ และฟลือเบอร์กุนเดอร์ (Frühburgunder) จนมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากทั้งในและนอกเยอรมนี
เบื้องหลังความสำเร็จของทั้งคู่มาจากความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับหลายไวน์เนอรี่ดังในเบอร์กันดี หลังจากนั้น พื้นที่ปลูกไวน์ของ Rudolf Fürst ได้ขยายจากตอนเริ่มที่มีเพียง 1.5 ha เป็น 20 ha ในปัจจุบัน จนในที่สุดทั้ง Paul และ Sebastian ก็ได้รับรางวัล Winemaker of the Year ในปี 2003 และ 2018 ไปครอง
Terroir (แตร์รัว)
Rudolf Fürst ตั้งอยู่ในเขตย่อยของ Franken ที่เรียกว่า Mainviereck ที่อุดมไปด้วย red sandstone หรือหินทรายแดง หินเก่าแก่ที่สุดในยุค Triassic ที่เกิดก่อน limestone เสียอีก และด้วย microclimate ที่อบอุ่นกว่าในบริเวณใกล้เคียงทำให้ไร่ไวน์ในเขตนี้เหมาะอย่างมากกับการปลูก ปิโนต์ นัวร์
ปรัชญาในการทำไวน์
Paul และ Sebastian ได้นำเอาปรัชญาการทำไวน์ของเบอร์กันดีมาประยุกต์ใช้ให้เข้ากับ ปิโนต์ นัวร์ จาก red sandstone ในไร่ไวน์ สองพ่อลูกเลือกใช้แต่องุ่นสายพันธุ์เก่าแก่ ปลูกต้นองุ่นแบบหนาแน่น (ใน Hundsrück แน่นถึง 17,000 vines/ha!) ใช้ปุ๋ยที่ทำเอง และเก็บองุ่นด้วยมือเท่านั้น ส่วนในเซลล่าร์ พวกเค้าใช้ whole cluster fermentation ด้วยยีสต์ธรรมชาติ และไม่มีการกรอง หลังจากนั้นจึงหมักไวน์แดงในถังโอ็คเบอร์กันดีเป็นเวลา 13 – 18 เดือน
Flagship
Rudolf Fürst เป็นเจ้าของไร่ระดับกรองครูหลายแห่งซึ่งรวมถึง Centgrafenberg ที่มีชื่อเสียง แต่ถ้าจะให้เลือกไร่กรองครูที่ดังที่สุดก็คงต้องเป็น Hundsrück ที่มีความพิเศษคือ ดินที่อุดมไปด้วยแร่เหล็ก และหน้าดินตื้นและเต็มไปด้วยหินกรวดที่ดูดความร้อนจากแสงแดดได้รวดเร็ว ปิโนต์ นัวร์ จาก Hundsrück เป็นไวน์ที่มีพลัง และมี aging potential สูงมาก ไวน์มีกลิ่นผลไม้หอม และกลิ่นเอกลักษณ์คือ กุหลาบป่า
ติดตาม “Meet The Grower” เรื่องราวน่าสนใจของคนทำไวน์ที่เราคัดสรรมาไว้ที่เซลล่าร์ของเราในครั้งต่อไปนะครับ