Egon Müller (เอกอน มุนเลอร์) “World’s most expensive white wine”
ที่ตั้ง: Scharzhof, Mosel
พื้นที่: 12.5 เฮกแตร์ (8.5 เฮกแตร์ในกรองครู Scharzhofberger)
พันธุ์องุ่น: รีสลิ่ง 100%
เรทติ้ง: Gault Millau 5/5 grapes, Vinum 5/5, Eichelmann 5/5 stars
Egon Müller ชื่อนี้แทบไม่ต้องการคำบรรยายอะไรเพิ่มสำหรับคอไวน์พันธุ์แท้ ชื่อเสียงและความหรูหราเทียบได้กับ Hermes ในโลกของ Luxury Brand, Patek Philippe ในตลาดนาฬิกาหรู และ Bentley ในวงการรถยนต์
Egon Müller คือหนึ่งในสุดยอดไวน์ที่หายากที่สุด และราคาแพงที่สุด ราคาเฉลี่ยของ Egon Müller Scharzhofberger Trockenbeerenauslese (TBA) บนเว็บดัง winesearcher ตอนนี้อยู่ที่ขวดละ 550,000 บาท (ราคาไม่รวม VAT) ซึ่งจะเป็นรองก็แค่ Romanée-Conti Grand Cru และก็ Henri Jayer Richebourg Grand Cru เท่านั้น แค่นั้นไม่พอ ไวน์ตัวนี้ยังได้รับเรทติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 98 แต้ม และมีปริมาณการผลิต (เฉพาะในปีที่ดีพอ) ในปริมาณที่น้อยมาก ๆ คือ 100 – 200 ขวดเท่านั้น
ประวัติของเป็นมาของ Egon Müller
ประวัติศาสตร์ของ Egon Müller เริ่มต้นในปี ค.ศ. 1797 เมื่อ Jean-Jacques Koch เข้าซื้อไร่ไวน์ใน Scharzhof ต่อจากรัฐบาลฝรั่งเศสที่ได้ยึดเอาที่ดินของบาทหลวงและขุนนางเข้ามาเป็นของรัฐในช่วง French Revolution แต่ประวัติศาสตร์ Scharzhof เก่าแก่กว่านั้นอีก โดยมีหลักฐานที่บ่งชี้ว่า น่าจะมีการทำไวน์ในบริเวณนี้มาตั้งแต่สมัยโรมัน จนถึงคณะบาทหลวง St Marien ad Martyres ที่เมือง Trier เมื่อประมาณ 700 A.D. และต่อเนื่องมาถึงตอนนี้
ในปัจจุบัน คนที่กุมบังเหียนไวน์เนอรี่ชื่อดังแห่งนี้คือ Egon Müller IV ซึ่งเป็นรุ่นที่ 6 ที่ทำไวน์ต่อจาก Jean-Jacques Koch ผู้ก่อตั้ง โดยครอบครัว Müller ได้เข้าไปซื้อไวน์เนอรี่ใหม่คือ Le Gallais ใน Wiltingen เมื่อปี 1954 จนเนื้อที่ไร่ไวน์ในปัจจุบันเพิ่มเป็นประมาณ 12.5 เฮกแตร์ ซึ่งก็ถือว่ายังเล็กมาก ๆ ครับ
Scharhofberger
ไร่ที่ดังที่สุดของ Egon Müller ก็คือ Scharzhofberger ไร่ระดับกรองครู (Grosse Lage)ในเขต Mosel ในเขตย่อยลุ่มแม่น้ำ Saar ที่เรียกได้ว่าหนาวที่สุดในเยอรมนี ด้วยดินที่อุดมไปด้วยหินชนวนสีเทาบนเนินชันที่หันมาทางทิศใต้ 100% ทำให้ไวน์จากตรงนี้มีแอซิดสูงสดชื่น และมิเนอรัลลุ่มลึกเหนือกว่าไวน์ตัวอื่น ที่สำคัญไวน์ของ Egon Müller เป็นไวน์ที่มี Aging Potential ที่ยาวนานมาก ๆ โดยไวน์กูรูส่วนใหญ่แนะนำการเก็บเป็นระดับทศวรรษกันเลยทีเดียว ไวน์ระดับเริ่มต้นหน่อยอย่าง Kabinett เก็บได้ 2-4 ทศวรรษ ส่วนตัวท็อป TBA ก็อย่างน้อย 10 ทศวรรษหรือเกิน 100 ปีเลยทีเดียว เรียกได้ว่าซื้อเก็บให้รุ่นเหลนดื่มกันเลยทีเดียว
ติดตาม “Meet The Grower” เรื่องราวน่าสนใจของคนทำไวน์ที่ Swirl Bangkok คัดสรรมาไว้ที่เซลล่าร์ของเราในครั้งต่อไปนะครับ